Tense ตอนที่ 2: วิธีการเรียน Tense ที่ถูกต้อง

ผมรู้ว่าหลายคนพอเรียนเรื่อง Tense  แล้วมักจะสงสัยว่าจะเอาไปใช้พูดในชีวิตจริงได้ยังไง และใช้พูดในสถานการณ์ไหนได้บ้าง ยิ่งพอได้เรียน Tense แปลกๆด้วยแล้วยิ่งรู้สึกว่า Tense มันช่างดูห่างไกลตัวเราซะเหลือเกิน จะขอยกตัวอย่างสุดคลาสสิค คนที่พึ่งเริ่มเรียน Tense ส่วนมากมักไม่เข้าใจ Past Continuous ว่า สิ่งหนึ่งมันกำลังเกิดขึ้นในอดีตได้ยังไง ที่ไม่เข้าใจก็ไม่แปลก เพราะ Tense คือวิธีการแก้ปัญหาในการสื่อสารกันในภาษาอังกฤษ เราเรียน Tense เราเรียนวิธีการแก้ปัญหา แต่เราไม่เรียนว่าตัวปัญหามันคืออะไร เราก็เลยไม่รู้ซักทีว่าวิธีการแก้ปัญหาที่เราเรียนนี้มันมีไว้เพื่ออะไร

ก่อนจะเขียนสอนเรื่อง Tense กันจริงๆจังๆผมจึงอยากจะพูดถึงปัญหาที่ Tense ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้เสียก่อน เมื่อเข้าใจปัญหาแล้ว เราก็จะเข้าใจวิธีการใช้ Tense แบบทะลุปรุโปร่ง โดยที่ไม่จำเป็นต้องจำหลักการในการใช้หลายๆข้อและไทม์ไลน์ต่างๆ หลักการใช้และไทม์ไลน์เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออธิบายรูปแบบต่างๆที่สามารถใช้ Tense แต่ละ Tense ได้ แต่ความจริงแล้วรูปแบบพวกนี้มาทีหลัง Tense การจำหลักการใช้และไทม์ไลน์จึงถือเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะมีปัญหาในการสื่อสาร Tense จึงได้เกิดขึ้น และเพราะ Tense ได้เกิดขึ้น รูปแบบการใช้ Tense ต่างๆจึงค่อยตามมาอีกที เรามัวแต่ไปเรียนสิ่งที่เกิดขึ้นทีหลัง Tense เราจึงไม่มีวันเข้าใจ Tense อย่างจริงๆเสียที

หากใครยังสงสัยว่า"รูปแบบ"มาก่อน Tense ได้ยังไง ผมจะขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้ครับ

ขอให้คุณลองอ่านคำนี้ดูนะครับ

"กา"

อ่านออกเสียงได้เป็นกาใช่มั้ยครับ

ทีนี้ลองอ่านคำนี้ดูบ้าง

"ขา"

เป็นอย่างไรครับ เห็นความแตกต่างมั้ยครับ ความแตกต่างก็คือ ทั้งกอไก่และขอไข่เป็นพยัญชนะในภาษาไทยเหมือนกัน และผสมเข้ากับสระอาเหมือนกัน แต่เสียงที่อ่านออกมากลับไม่เหมือนกัน "กา"อ่านได้เป็นเสียงสามัญ ส่วน"ขา"กลับอ่านได้เป็นเสียงจัตวา ถ้าหากมีฝรั่งมาถามว่าทำไมเราถึงอ่านออกเสียงสองคำนี้ในภาษาไทยไม่เหมือนกัน คุณจะตอบว่าอะไรครับ

ผมมีคำตอบให้ครับ นั่นเป็นเพราะว่ากอไก่เป็นอักษรกลาง ส่วนขอไข่เป็นอักษรสูง เมื่ออักษรกลางไม่ได้ผสมกับวรรณยุกต์ใดๆ เวลาอ่านออกเสียงจะได้เสียงสามัญ ส่วนอักษรสูง เมื่อไม่ได้ผสมกับวรรณยุกต์ใดๆ เวลาอ่านออกเสียงจะได้เสียงจัตวา อธิบายเพียงเท่านี้ฝรั่งก็จะเข้าใจ

แต่ทีนี้ผมถามคุณบ้างครับ ตอนเราเป็นเด็ก เราเรียนเรื่องไหนก่อนครับ ระหว่างเรื่องการอ่านออกเสียง"กา"และ"ขา" หรือ เรื่องอักษรกลาง สูง และต่ำ? และตอนเราเป็นเด็กอีกเช่นกัน เราต้องมาจำมั้ยครับ ว่าอักษรตัวนี้เป็นอักษรต่ำ เมื่อผสมกับไม้โท เราต้องอ่านออกเสียงตรี เช่นคำว่า "ค้า" เป็นต้น ส่วนอักษรตัวนี้เป็นอักษรกลาง เมื่อผสมกับไม้โท เราจะอ่านเสียงโทแทน เช่นคำว่า "จ้า" เป็นต้น

คำตอบคือไม่ครับ(ตอบให้) เราเรียนรู้วิธีการใช้จริงๆของภาษาก่อน แล้วถึงค่อยมาสรุปรูปแบบของมัน การเรียน Tense ก็เช่นกัน เราต้องศึกษาปัญหาที่ Tense พยายามแก้ไขเสียก่อน ถึงจะเข้าใจมัน สำหรับในบทหน้าผมจะมาอธิบายถึงปัญหาต่างๆที่เกริ่นมาตั้งนานในทบนี้ครับ

Image Acknowledgement:
“Taking a Test” is copyright (c) by Renato Ganoza and made available under an Attribution 2.0 license